Blackview OSCAL C80 มือถือระดับเริ่มต้นที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมันมาพร้อมพาเนลแบบ IPS LCD ความกว้าง 6.5 นิ้ว คมชัด HD+ รีเฟรชเรท 90Hz ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ตั้งแต่แกะกล่อง วงการไอที มือถือ ใช้ขุมพลังรุ่นเล็กอย่าง Unisoc T606 ให้ความเร็วสูงสุด 1.6GHz และมีกล้องหลังสอตัว ใช้เซนเซอร์รับภาพ ISOCELL JN1 ความละเอียดสูงสุด 50MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,180mAh รองรับระบบชาร์จไว 18W
Blackview OSCAL C80 ใช้ชิปประมวลผล Unisoc T606 ขนาด 12 นาโนเมตร
มือถือ Blackview OSCAL C80มาพร้อมตัวเครื่องพลาสติกผิวด้าน เคลือบสารป้องกันละอองน้ำ ติดตั้งพาเนลแบบ IPS LCD ความกว้าง 6.5 นิ้ว ความคมชัด HD+ มีค่าความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลระดับ 270ppi รีเฟรชเรท 90Hz ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 12 ครอบด้วยอินเตอร์เฟส Doke-OS 3.0 ใช้ขุมพลัง Unisoc T606 ขนาด 12 นาโนเมตร ความเร็วสูงสุด 1.6GHz ทำงานร่วมกับจีพียูแบบ Mali-G57 MP1 เสริมด้วยหน่วยความจำ RAM แบบ LPDDR4X ขนาด 8GB ที่มีเทคโนโลยี RAM เสมือน มือถือระบบ android เทคนิคง่าย ๆ สามารถเพิ่มพื้นที่ได้สูงสุดอีก 6GB เป็น 14GB เพื่อการใช้งานที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุ 128GB พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,180mAh รองรับระบบชาร์จไว 18W ที่สามารถชาร์จแบตเต็ม 100% ภายในเวลาแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น
สมาร์โฟน Blackview OSCAL C80ติดตั้งกล้องหลังสองตัว ความคมชัด 50MP+2MP ใช้เซนเซอร์รับภาพ ISOCELL JN1 สามารถบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 30fps พร้อมกล้องหน้าขนาด 8MP เซนเซอร์รับภาพ ISOCELL 4H7 ใช้ดีไซน์ทรงหยดน้ำตรงกลางด้านบนหน้าจอ รองรับการบันทึกวิดีโอความคมชัด FHD ที่ 30fps เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อครบครัน ไม่ว่าจะเป็น 3G, 4G, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.0, USB Type-C, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร รวมถึงรองรับคลื่นวิทยุ FM แถมยังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้ปุ่ม Power มาให้ใช้งานด้วย
สำหรับ Blackview OSCAL C80เปิดตัวมาด้วยกันถึง 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน, สีขาว และสีดำ สนนราคาอยู่ที่ 130 ยูโร หรือประมาณ 4,xxx บาท (ไม่รวมภาษีของแต่ละประเทศ) เบื้องต้นสามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์จากต่างประเทศเท่านั้น ยังไม่มีการนำเข้ามาวางขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
