Blockchain ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 วิดีโอของอดีตประธานาธิบดี Barrack Obama ที่ปรากฏบน YouTube เพื่ออธิบายว่ามีการใช้เทคโนโลยีสามารถในจัดการวิดีโอและสร้างข่าวปลอมได้อย่างง่ายดาย ซึ่งมีผู้เข้าชมมากกว่า 7.2 ล้านครั้ง ซึ่งวิดีโอดังกล่าวได้อธิบายว่าจะมีการใช้ชิวิตได้อย่างไรในช่วเวลาอันตราย เมื่อใครก็ได้สามารถพูดเรื่องอะไรก็ได้ตลอดเวลา เรื่องที่พูดอาจจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริงก็ได้ แต่ได้สร้างความเข้าใจผิดและแพร่กระจายไปทั่วบนโลกออนไลน์ ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ ก็คือการกำหนดมาตรฐานวิธีการนำเสนอเนื้อหาทางออนไลน์ ซึ่งภายในปี 2023 เนื้อหาข่ายและวิดีโอมากถึง 30% ทั่วโลกอาจได้รับการรับรองความถูกต้องตาม
ข้อเท็จจริงโดยใช้ Blockchain ซึ่งเป็นผลมาจากการต่อต้านเทคโนโลยี Deep Fake
ทั้งนี้Blockchain สามารถติดตามที่มาของข่าวสารที่รวมทั้งเนื้อหาที่เป็นข้อความและภาพวิดีโอ เพื่อจะให้ผู้บริโภคเนื้อหาทราบว่ามาจากที่ใดและมั่นใจได้ว่าเนื้อหาดังกล่าวจะไม่ถูกเปลี่ยนแปลง โดยการกำหนดให้โซเชียลมีเดียต่างๆ ให้อยู่ในBlockchain จะช่วยให้ผู้ใช้งานควมคุมได้ข้อมูลของตนเองและยังสามารถใช้ควบคุมอัลกอริทึมและตัวกรองที่กำหนดทิศทางการโพสข้อมูลได้อีกด้วย ทั้งนี้ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ Twitter กำลังระดมทุนให้กับทีมงานอิสระขนาดเล็กที่มีทั้งสถาปนิก วิศวกร และนักออกแบบโอเพ่นซอร์สถึง 5 คน เพื่อพัฒนามาตรฐานแบบเปิดและมีการกระจายอำนาจสำหรับโซเชียลมีเดีย โดยแนวคิดของ Twitter คือ การอนุญาตให้ผู้ใช้ได้อ่านในสิ่งที่ต้องการโดยเสนอตัวกรองที่อาจใช้ Blockchainเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาตามที่ต้องการได้
โดยในช่วงสองปีที่ผ่านมานี้มีโครงการระดับสูงหลายโครงการที่ใช้Blockchain เพื่อตรวจสอบและระงับข่าวปลอมต่าง ยกตัวอย่างเช่น โครงการ Provenance News ที่ได้รับการสนับสนุนจากนิตยสาร New York Times, Deep Trust Alliance และ PO.ET เป็นตัวอย่างของความพยายามในการสร้างมาตรฐานของวิธีการส่งข่าวสาร รูปภาพ และวิดีโอไปยังเซ็บไซต์ ในขณะที่บันทึกการเดินทางที่เกิดขึ้นจากแหล่งที่มาถึงผู้บริโภค ทั้งนี้ PO.ET กำลังพัฒนาระบบกระจายอำนาจโดยใช้ Bitcoin Blockchainเป็นบันทึกที่ไม่เปลี่ยนรูป
ซึ่งประทับเวลาเนื้อหาและใช้มาตรฐานการทำงานร่วมกันของอุตสาหกรรมสื่อในปัจจุบัน ในขณะที่โครงการ Provenance News ทำงานร่วมกับ IBM’s Garage เพื่อพัฒนาข้อพิสูจน์แนวคิด โดยใช้ Hyperledger Fabric blockchainเพื่อจัดเก็บข้อมูลขั้นต้นตามบริบทที่เกี่ยวกับรูปภาพข่าวและวิดีโอ รวมถึงผู้ที่ถ่ายภาพ สถานที่ถ่ายทำ และเวลาที่ได้รับการแก้ไขและเผยแพร่ ซึ่งBlockchain จะบันทึกต้นกำเนิดของภาพถ่าย เวลาที่ถ่าย และชื่อของผู้ที่ทำการเผยแพร่ และวิธีการใช้งานในเครือข่ายขององค์กรข่าว
ดังนั้นการใช้Blockchain ที่ดีที่สุดคือการจัดการเนื้อหา ซึ่งที่ทุกคนจะนำระบบการจัดการเนื้อหาที่มีการเข้ารหัส มีการลงนาม และการแก้ไขแต่ละครั้งจะถูกบันทึกไว้ทุกครั้ง ที่จะทำให้การรับรองความถูกต้องของเนื้อหาโดยใช้Blockchain จะทำให้ข่าวปลอมมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากจนแทบจะไม่เกิดขึ้นได้อีกต่อไป
ฝากกดติดตาม ข่าวไอที 2020
ข่าวสารไอทีที่น่าสนใจ Furhat Social Robot หุ่นยนต์ ที่สามารถแสดงสีหน้าได้
